เอารูปภาพเทคนิคผสมสมัยเรียนเมื่อหลายปีดีดัก มาแบ่งกันชมครับ
ดูๆแล้วผมเองก็เริ่มคิดมากตั้งแต่สมัยนั้นเลยหรือเนี่ยะ
ภาพนี้ใช้หลากหลายเทคนิคครับ
ทั้งสีน้ำกับสีน้ำมัน สีชอล์กน้ำมัน สีอาครายลิค
อักทั้งเรื่องราวยังเกี่ยวกับความเชื่อ ชีวิต และความรัก
ในใจบางทีก็นึกน้อยใจหลายเรื่องโน้นนั่นนี่ไปเรื่อยเปื่อยครับ
บางครั้งก็ฮึกเหิม กล้าซะจนบ้าบิ่น
ไม่กล้วความเจ็บปวดหรือความผิดพลาดหลายๆอย่างที่จะตามมา
มีหลากหลายคำถามที่เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น
ตอนที่ความรู้สึกรุนแรง ต่อต้าน กับสังคมการดำเนินชีวิตในโลกใบนี้
ที่ต่างคนต่างหากินแก่งแย่งแข่งขัน แล้วก็ ขอ ขอ ขอ ขอจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์
จนงงๆว่าเราขอพรอธิษฐานให้เห็นธรรมโดยเร็ว ให้ปลดปล่อยพ้นจากทุกข์
หรือขอพรเพื่อหวังลาภ ยศ สรรเสริญ อธิษฐานเพื่อหวังได้ ไม่ได้หวังที่จะปลดปล่อย ขอให้เข้าไปอยู่ในทุกข์ไวไว
เรามองอะไรกันพลาดมาตั้งแต่ตอนไหน ...หรือเปล่า
เรายึดติดที่ภาพลักษณ์ที่เป็นเปลือกหรือแก่นสาร
เปลือกที่ห่อหุ้มกับแก่นแท้ภายใน เรามองแยกออกมั้ย
ตอนที่ความรู้สึกรุนแรง ต่อต้าน กับสังคมการดำเนินชีวิตในโลกใบนี้
ที่ต่างคนต่างหากินแก่งแย่งแข่งขัน แล้วก็ ขอ ขอ ขอ ขอจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์
จนงงๆว่าเราขอพรอธิษฐานให้เห็นธรรมโดยเร็ว ให้ปลดปล่อยพ้นจากทุกข์
หรือขอพรเพื่อหวังลาภ ยศ สรรเสริญ อธิษฐานเพื่อหวังได้ ไม่ได้หวังที่จะปลดปล่อย ขอให้เข้าไปอยู่ในทุกข์ไวไว
เรามองอะไรกันพลาดมาตั้งแต่ตอนไหน ...หรือเปล่า
เรายึดติดที่ภาพลักษณ์ที่เป็นเปลือกหรือแก่นสาร
เปลือกที่ห่อหุ้มกับแก่นแท้ภายใน เรามองแยกออกมั้ย
และแล้วทุกอย่างก็ถูกลืมเลือน
ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ถูกดูดเข้ามาสู่วังวนแห่งนี้
แรงดึงดูดแห่งความอยากได้ อยากมีมันช่างมากมายซะเหลือเกิน
จนมาถึงปัจจุบันที่ไม่นานมานี่เอง...
ผมมีโอกาสไปนั่งดูกิจกรรมที่ทางหน่วยงานราชการจัดให้ชม
วันนั้นจำได้ว่าไปดูคอนเสริต ของใครสักคนนี่แหละ
แน่นนอนไม่ต้องสงสัยว่าใคร เพราะผมนึกชื่อไม่ออก
เพราะถ้าเป็นฟิลม์ผมคงจำได้อย่างไม่ต้องสงสัย ฮืมมม..แอนนี่ด้วย
ผมค่อยๆเดินเข้าไปดูการแสดงวันนั้นอย่างห่างๆครับ
ว่าจะเข้าไปนั่งเก้าอี้ด้านหน้าสักหน่อย อันนี้แน่นอนเลยครับว่าเป็นศิลปินหญิง
ก็เกิดอาการไม่กล้าซะอย่างงั้นน่ะ สาเหตุเพราะ...
ด้านหน้าเขามักจะจัดให้บรรดาท่านประธานจัดงาน
แขกผู้มีเกือก อุ่ย!มีเกียรติทั้งหลายได้นั่งตัวตรงตั้งเด่ ชมคอนเสริต
ที่นักร้องทั้งเต้นทั้งดิ้นกันแถบตายอยู่บนเวที
แต่ท่านทั้งหลายเหล่านั้น เหมือนกับดูละครฆาตรกรรมซะงั้น
หลังจากจบการแสดงสั้นๆ(มาร้องสองสามเพลง )
ชายผู้ใส่สูทที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ท่านประธานคนนั้น
ก็ลุกเดินขึ้นไปบนเวที พร้อมโอบคอนักร้องคนนั้นอย่างเป็นกันเองเพื่อถ่ายภาพ
บรรดานักข่าวท้องถิ่น คนดูที่ถือกล้องต่างวิ่งกรูเข้าไปเพื่อถ่ายภาพ
จากนั้นชายใส่สูทคนนี้ก็เดินลงมาด้านข้างเวที เราเองก็อยากไปถ่ายด้วยเหมือนกันแหละ
เห็นเขากดชัดเตอร์กันใหญ่ก็อยากถ่ายกะเขามั่ง
ตอนนี้นี่เองที่ทุกอย่างเริ่มดูแปลกๆ มีกลุ่มอาสาสมัครดูแลความปลอดภัยในงาน
ได้เข้ามารุมชายคนนั้น แล้วลากแขนชายผู้ใส่สูทผมเรียบคนนั้นออกจากหน้าเวที
เขาเป็นใคร..?? ผมเริ่มสงสัย..เห็นมาดนุ่มๆ แบบนั้น
ท่าทางการยืนเอคติ้งถ่ายรูปก็ไม่ใช่ธรรมดาๆ
มีรู้จักมุมกล้องอีกต่างหาก เอียงมาเชียะทุกมุมที่มีกล้อง
แล้วทำไมเหล่าอาสาสมัครมาทำกับเขาแบบนั้น ??
????????????????????
ในที่สุดผมก็ได้คำตอบว่าประธานเพิ่งเดินทางมาถึง
อ้าว ! แล้วหมอนี่เป็นใครฟระ...
หลายๆคนคงอดสงสัยไม่ได้เหมือนๆกับผมที่หน้าโง่ๆอยู่แล้ว กับโง่เพิ่มแบบไม่รู้ตัว
คำตอบคือ..ชายคนนี้สติไม่ค่อยสมประกอบเท่าไหร่
หลายๆคนที่อยู่บริเวณนั้นเขารู้กันดี เพราะเห็นแกใส่สูท เดินไปมาประจำ
เจอนักร้อง ดารา คนดังที่ไหนเป็นเข้าไปถ่ายรูปด้วยแบบเนียนๆ
แล้วคนที่ถูกถ่ายด้วยก็งงๆว่านี่ตรูถ่ายกับ นักการเมืองที่ไหนฟระ
ผมก็ยังคงเป็นเหมือนกับคนอื่นๆที่อยู่ทั่วๆไป
ที่มองใครก็ตัดสินคนนั้นจากเปลือกที่ห่อหุ้มภายนอกในครั้งแรก
ใครจะคิดว่าคนที่สติไม่สมประกอบ จะลุกขึ้นมาใส่สูท หวีผมเรียบ ดูสุขุมนุ่มลึก ชี้ไม้ชี้มือสั่งนู้นนี่
นั่งเก้าอี้ประธาน แล้วขึ้นเวทีถ่ายรูปกับนักแสดง อย่างเนียนระดับเทพ
จะเป็นคนสติไม่ดี หรือคนบ้าอย่างที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกกัน
สารพัดคำถามเกิดขึ้นในตอนนั้นในสมัยเรียน ก็คงเลยมาถึงตอนนี้ด้วยแหละ
ว่าเรายังยึดติดกับเปลือกที่หุ้มอยู่มากขึ้นหรือลดน้อยลง
ถ้าเปลือกของชายคนนั้นคือสูทกับทรงผม แล้วของหลายๆคนคืออะไร
อะไร ?? ไม่ต้องตอบผม คำตอบอยู่กับทุกคนที่เห็นมันได้ด้วยตาใจ
แต่ความคิดแบบนี้ของผมก็เบาบางลงมามาก ในเมื่อหลายๆคำตอบได้ถูกคลี่คลายลงไป
เบาบางจากการมองโลกให้ง่ายขึ้น มองในอย่างที่โลกเป็น
ไม่ได้มองโลกในอย่างที่เราอยากให้เป็น เพราะสิ่งที่เราอยากให้เป็นมันอยู่ไกลซะเหลือเกิน
ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ถูกดูดเข้ามาสู่วังวนแห่งนี้
แรงดึงดูดแห่งความอยากได้ อยากมีมันช่างมากมายซะเหลือเกิน
จนมาถึงปัจจุบันที่ไม่นานมานี่เอง...
ผมมีโอกาสไปนั่งดูกิจกรรมที่ทางหน่วยงานราชการจัดให้ชม
วันนั้นจำได้ว่าไปดูคอนเสริต ของใครสักคนนี่แหละ
แน่นนอนไม่ต้องสงสัยว่าใคร เพราะผมนึกชื่อไม่ออก
เพราะถ้าเป็นฟิลม์ผมคงจำได้อย่างไม่ต้องสงสัย ฮืมมม..แอนนี่ด้วย
ผมค่อยๆเดินเข้าไปดูการแสดงวันนั้นอย่างห่างๆครับ
ว่าจะเข้าไปนั่งเก้าอี้ด้านหน้าสักหน่อย อันนี้แน่นอนเลยครับว่าเป็นศิลปินหญิง
ก็เกิดอาการไม่กล้าซะอย่างงั้นน่ะ สาเหตุเพราะ...
ด้านหน้าเขามักจะจัดให้บรรดาท่านประธานจัดงาน
แขกผู้มีเกือก อุ่ย!มีเกียรติทั้งหลายได้นั่งตัวตรงตั้งเด่ ชมคอนเสริต
ที่นักร้องทั้งเต้นทั้งดิ้นกันแถบตายอยู่บนเวที
แต่ท่านทั้งหลายเหล่านั้น เหมือนกับดูละครฆาตรกรรมซะงั้น
หลังจากจบการแสดงสั้นๆ(มาร้องสองสามเพลง )
ชายผู้ใส่สูทที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ท่านประธานคนนั้น
ก็ลุกเดินขึ้นไปบนเวที พร้อมโอบคอนักร้องคนนั้นอย่างเป็นกันเองเพื่อถ่ายภาพ
บรรดานักข่าวท้องถิ่น คนดูที่ถือกล้องต่างวิ่งกรูเข้าไปเพื่อถ่ายภาพ
จากนั้นชายใส่สูทคนนี้ก็เดินลงมาด้านข้างเวที เราเองก็อยากไปถ่ายด้วยเหมือนกันแหละ
เห็นเขากดชัดเตอร์กันใหญ่ก็อยากถ่ายกะเขามั่ง
ตอนนี้นี่เองที่ทุกอย่างเริ่มดูแปลกๆ มีกลุ่มอาสาสมัครดูแลความปลอดภัยในงาน
ได้เข้ามารุมชายคนนั้น แล้วลากแขนชายผู้ใส่สูทผมเรียบคนนั้นออกจากหน้าเวที
เขาเป็นใคร..?? ผมเริ่มสงสัย..เห็นมาดนุ่มๆ แบบนั้น
ท่าทางการยืนเอคติ้งถ่ายรูปก็ไม่ใช่ธรรมดาๆ
มีรู้จักมุมกล้องอีกต่างหาก เอียงมาเชียะทุกมุมที่มีกล้อง
แล้วทำไมเหล่าอาสาสมัครมาทำกับเขาแบบนั้น ??
????????????????????
ในที่สุดผมก็ได้คำตอบว่าประธานเพิ่งเดินทางมาถึง
อ้าว ! แล้วหมอนี่เป็นใครฟระ...
หลายๆคนคงอดสงสัยไม่ได้เหมือนๆกับผมที่หน้าโง่ๆอยู่แล้ว กับโง่เพิ่มแบบไม่รู้ตัว
คำตอบคือ..ชายคนนี้สติไม่ค่อยสมประกอบเท่าไหร่
หลายๆคนที่อยู่บริเวณนั้นเขารู้กันดี เพราะเห็นแกใส่สูท เดินไปมาประจำ
เจอนักร้อง ดารา คนดังที่ไหนเป็นเข้าไปถ่ายรูปด้วยแบบเนียนๆ
แล้วคนที่ถูกถ่ายด้วยก็งงๆว่านี่ตรูถ่ายกับ นักการเมืองที่ไหนฟระ
ผมก็ยังคงเป็นเหมือนกับคนอื่นๆที่อยู่ทั่วๆไป
ที่มองใครก็ตัดสินคนนั้นจากเปลือกที่ห่อหุ้มภายนอกในครั้งแรก
ใครจะคิดว่าคนที่สติไม่สมประกอบ จะลุกขึ้นมาใส่สูท หวีผมเรียบ ดูสุขุมนุ่มลึก ชี้ไม้ชี้มือสั่งนู้นนี่
นั่งเก้าอี้ประธาน แล้วขึ้นเวทีถ่ายรูปกับนักแสดง อย่างเนียนระดับเทพ
จะเป็นคนสติไม่ดี หรือคนบ้าอย่างที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกกัน
สารพัดคำถามเกิดขึ้นในตอนนั้นในสมัยเรียน ก็คงเลยมาถึงตอนนี้ด้วยแหละ
ว่าเรายังยึดติดกับเปลือกที่หุ้มอยู่มากขึ้นหรือลดน้อยลง
ถ้าเปลือกของชายคนนั้นคือสูทกับทรงผม แล้วของหลายๆคนคืออะไร
อะไร ?? ไม่ต้องตอบผม คำตอบอยู่กับทุกคนที่เห็นมันได้ด้วยตาใจ
แต่ความคิดแบบนี้ของผมก็เบาบางลงมามาก ในเมื่อหลายๆคำตอบได้ถูกคลี่คลายลงไป
เบาบางจากการมองโลกให้ง่ายขึ้น มองในอย่างที่โลกเป็น
ไม่ได้มองโลกในอย่างที่เราอยากให้เป็น เพราะสิ่งที่เราอยากให้เป็นมันอยู่ไกลซะเหลือเกิน
No comments:
Post a Comment